No real photo, stop using drawings.
King Babur birthname is Zahiruddin Mohammad Babur
King Babur birthday is 14 February 1483
King Babur was born in Andijon, Uzbekistan.
King Babur ethnicity is Uzbek, Persian, and Indian
King Babur was a king who was an emperor of Mughal Empire. Mughal or Moghul dynasty that he ruled has a root word of 'Mongol', indicating that he has a significant Mongoloid descent intermixing with another well-known Persian Caucasoid genetics of Uzbekistan at the period he was born. He's a direct descendant of Amir Timur. He had a father that is King Omar of Ferghana. He had a grandson namely Akbar who later became a ruler as a legacy of Mughal Empire. He was incredibly famous for the fact that he tried to bring a unity of muslim and hindi people. As the majority population of India is believed to be mostly Hindi, many people just never heard about of the truth of real religion because Islam sometimes wasn't brought into the society or community that is developing. But the chaos and delusion made Indian people worship wrong things. It's totally wrong to build a statue by human ability and ridiculously worship it. Anyway, King Babur couldn't convince too much.
กษัตริย์บาบูร์ มีชื่อเต็มๆว่า ซาฮีร์-อุดดิน โมฮัมหมัด บาบูร์ เกิดเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ 1483 คือผู้ก่อตั้งราชวงศ์โมกุล Mughal/Moghul/Mogol สามารถกะกดได้หลายแบบ รากศัพท์ของมองโกล(Mongol) เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายโดยตรงจากกษัตรย์ทีมูร์หรือเตมืร์Timur (สะกดอีกแบบได้เช่น Tamerlane) และเจงกิสข่าน อีกด้วยในปี ค.ศ.1526 กษัตริย์บาบูร์ได้ก่อตั้งจักรวรรดิโมกุลและราชวงศ์ สร้างความสามัคคีมากมายระหว่างชาวมุสลิมกับชาวฮินดูในอินเดีย เป็นต้นตอให้มีการกระจานตัวของชาวมุสลิม และลูกหลานเหลนโหลนให้ไปในที่ต่างๆใกล้เคียงประเทศอินเดียรวมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งไทยก็มีส่วนได้รับอิทธิพลของมุสลิมโดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยนั้น ท่านเป็นมุสลิมที่จริงใจ และมีวรรณคดีต่างๆมากมาย
กษัตริย์บาบูร์เก่งมากในเรื่องการหลอมรวมประชากรในประเทศอินเดียให้สามัคคีกันค่ะ เนื่องจากในประเทศอินเดียมีทั้งคนที่เป็นมุสลิม ฮินดู และพุทธ ต่างๆนาๆ ก็เลยมีความขัดแย้งกันอยู่บ้าง แต่กษัตริย์บาบูร์ช่วยสมานฉันท์สร้างความปรองดองในหมู่ผู้คนที่แตกต่าง และอธิบายให้คนที่ไม่รู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามให้เข้าใจแก่นแท้ของอิสลามซึ่งเป็นศาสนาที่สมบูรณ์กว่าศาสนาอื่นๆ เพราะอิสลามคือศาสนาที่แท้จริงที่พระเจ้าประทานมายังโลกนี้เป็นศาสนาสุดท้ายตามพระบัญญัติ ทุกคนก็สามารถเข้าใจได้โดยการใช้สติปัญญาเพียงแค่เล็กน้อย กับการสนทนากับกษัตริย์บาบูร์ไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมมากมาย สมัยนั้นไม่มีความเชื่อที่บิดเบือนซะเท่าไหร่
กษัตริย์บาบูร์เป็นคนที่พูดภาษาอุซเบ็กได้เป็นภาษาหลักของลิ้นธรรมชาติค่ะ เนื่องจากเกิดที่อุซเบกิสถานและได้รับเชื้อสายกษัตริย์ทีมูร์โดยตรง ต่อมาได้มาบุกเบิกก่อตั้งจักรวรรดิ Mughal ขึ้นมาที่อินเดีย เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆที่ทำให้มีราชวงศ์เชื้อสายมุสลิม ในเอเชียตอนใต้ และแพร่ไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในภายหลัง ศาสนาอิสลามเจริญรุ่งเรืองมากๆค่ะในช่วงนั้น ก่อนที่จะมีความเชื่อที่ผิดๆของชาวอินเดียบางส่วนที่บูชาวัวและเจ้าแม่กวนอิม เป็นความเชื่อที่หลงผิดมานานค่ะ และทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศอินเดียอยู่มาก จริงๆมนุษย์เราต้องสักการะพระเจ้าองค์เดียว ไม่ใช่ไปไหว้รูปปั้นที่คนปั้นขึ้นมาเองค่ะ ลองคิดดูๆสิคะ ปั้นขึ้นเองแล้วก็ไหว้เอง มันผิดเพี้ยนมากๆค่ะ ถ้าเรามาดูในทางศาสนาที่แท้จริง หลักฐานบอกว่า พระเจ้าสาปแช่งคนเหล่านี้ คนที่ปั้นสิ่งปลอมเลียนแบบ คนที่พยามสร้างรูปปั้นเสมือนให้มีชีวิต คนพวกนี้บาปหนาค่ะ หลายๆคนอาจจะไม่มีสามัญสำนึกมากพอ ไม่รู้พระเจ้าจะลงโทษไหม แต่ถ้านึกได้แล้วยังทำ บาปแน่ๆค่ะ เพราะผู้ที่จะสร้างปั้นสิ่งมีชีวิตได้ มีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่สร้างได้ค่ะ พระเจ้าสร้างมนุษย์ สร้างโลก ทุกๆอย่าง แต่ก็มีพวกเพี้ยนๆพยามสร้างรูปปั้นเลียนแบบ ตลกมากค่ะ แต่พระเจ้าก็อาจจะปล่อยให้คนเหล่านั้นหลงผิดต่อไป เช่นพระเจ้าให้คนเหล่านั้นเกิดความสมหวังเวลาไปบนกับรูปปั้นต่างๆ โดยที่คนเหล่านั้นนึกว่ารูปปั้นมีชีวิต แต่หารู้ไม่ว่า พระเจ้าองค์เดียวของโลก(พระอัลลอฮ์) สนองให้ผู้คนที่หลงผิดได้หลงผิดต่อไป ในเมื่อคนมีหลายคนไม่รับสัจธรรม พระเจ้าก็คงจะมีบทลงโทษพวกที่ปฏิเสธสัจธรรมไว้แล้วค่ะ โดยเฉพาะพวกที่ดื้อรั้นหลงผิด ทั้งๆที่ศาสนาอิสลามได้มีการอธิบายอย่างกระจ่างชัดเจนในปัจจุบันว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีองค์เดียว ก็คือพระเจ้า(Allah)ผู้สร้างมนุษย์โลก
มาดูประวัติกษัตริย์บาบูร์กันต่อค่ะ กษัตริย์บาบูร์มีความเคร่งในศาสนาอย่างมาก และเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงฟิตมากๆด้วย กษัตริย์บาบูร์ก็คือนักกีฬาคนนึงเช่นกัน เพราะกษัตริย์สามารถออกกำลังกายโดยการแบกผู้ชายสองคนไว้ที่บ่าไหล่สองข้างและวิ่งรอบๆแบบมีทางลาดชันด้วย แบบว่าสุดยอดนักกีฬาจริงๆนะคะ ถ้าร่างกายไม่ฟิตแข็งแรงระดับนักกีฬา ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ไหนยังจะสามารถว่ายน้ำสวนกระแสคลื่นในแม่น้ำอีกด้วย คือเป็นกษัตริย์ที่แข็งแรงที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียวค่ะ
ใน ปี ค.ศ. 1497 กษัตริย์บาบูร์ได้ครอบครองเมือง Samarkand ในอุซเบกิสถาน แต่ก็เสียกรุงในปี ค.ศ. 1501 เพราะเจอเจ้าเมืองอุซเบกที่มีความขัดแย้งกันในสมัยนั้นรบชนะไป ความปราชัยของกษัตริย์บาบูร์ทำให้ต้องเสียเวลาอีกราว 3 ปีกว่าจะได้เสริมสร้างกองทัพมากขึ้น ใน ปี ค.ศ. 1504 กษัตริย์บาบูร์ก็ได้เดินทางมาแถบเอเชียใต้ ฟันฝ่าสภาพแวดล้อมอุปสรรคหิมะท่ามกลาง Hindu Kush และได้ยึดเมือง Kabul ได้สำเร็จ นี่เป็นช่วงจังหวะที่กษัตริย์บาบูร์กลับมาใหญ่อีกครั้งหลังจากความพ่ายแพ้ในอุซเบกิสถานบ้านเกิดของตัวเอง พอได้ข่าวว่าเจ้าเมืองในอุซเบกิสถานได้สิ้นชีวิตแล้ว กษัตริย์บาบูร์เลยตัดสินใจกลับไปเพื่อที่จะไปฟื้นฟูมรดกของบรรพบุรุษตนอีกครั้ง คือกลับไปรื้อฟื้นจักรวรรดิทีมูร์เพื่อครอบครองอาณาเขตส่วนใหญ่ในอุซเบกิสถาน และทำสำเร็จลุล่วงได้ยึดเมือง Samarkand อยู่ช่วงนึง แต่พอมาในปี ค.ศ. 1514 กษัตริย์บาบูร์กลับโดนปราบราบคาบโดยเหล่าประชาชนอุซเบก และกลับไปที่ Kabul ในอัฟกานิสถานที่ติดๆกับตอนใต้ของอุซเบกิสถาน ด้วยความยากลำบากมากๆ ดูสิคะ ขนาดเป็นกษัตริย์แท้ๆยังโดนประชาชนของตนโค่น เลยต้องไปตั้งถิ่นที่เอเชียใต้ ในโซนอินเดียปากีสถานอัฟกานิสถานแทน ตอนที่มาถึงการรบในอินเดีย กษัตริย์บาบูร์รบกับ Rana Sangar และก็สามารถชนะได้ ทำให้กษัตริย์บาบูร์ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดียเหนือ(ติดกับปากีสถาน และใกล้กับอัฟกานิสถาน)
กษัตริย์บาบูร์ใช้ชีวิตบั้นปลายโดยการดูแล จักรวรรติ Mughal ที่ตนก่อตั้งขึ้นมา และบำรุงปรับปรุงเมืองหลง Agra และสร้างบำทึกความทรงจำของตัวเอง "Baburnama" ที่เขียนโดยภาษาแขนงเติร์กก็แขนงเดียวกับอุซเบกค่ะ แต่ไม่ใช่ภาษาอินเดียนะคะ อินเดียไม่ใช่เติร์ก แต่หน้าตาอาจจะคล้ายๆกันเพราะหน้าแขกๆเหมือนกันแต่เติร์กจะมองโกลอยด์กว่าและฝรั่งกว่าด้วยค่ะ แต่ถึงแม้กษัตริย์บาบูร์จะร่างกายแข็งแรงแบบฟิต แต่สุดท้ายก็ต้องสูญเสียชีวาเพราะโรคค่ะ สุขภาพอวัยวะภายไม่แข็งแรงเท่าภายนอก กษัตริย์บาบูร์เลยอยู่ได้ 48 ปี และถูกฝังร่างไว้ในอัฟกานิสถาน ต่อมา King Humayun ซึ่งเป็นบุตรได้ขึ้นบัลลังก์กษัตริย์แทนที่ค่ะ